แรงบันดาลใจเรื่องความสำเร็จ จากคำคมหนังดัง Biri Gal (2015)

แรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต แรงบันดาลใจในการทำงาน

 

‘ความหนักของเงินก้อนนั้น เธอรับรู้ได้ใช่มั้ย’

คำคมจากตัวละครสึโบตะ หนังเรื่อง Biri Gal (2015)

เชื่อว่าทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยไหนก็ต้องเคยเผชิญความยากลำบากหรือตกอยู่ในช่วงเวลาที่รู้สึกว่าทุกอย่างรอบตัวดูมืดแปดด้านไปหมด ในตอนเป็นเด็กเรื่องยากลำบากของเราอาจจะเป็นเรื่องขี่จักรยานแล้วล้ม ถูกคุณแม่ดุเพราะแอบหยิบขนมที่ตกพื้นขึ้นมากิน โตขึ้นมาหน่อยอาจเพราะไม่ได้ออกไปวื่งเล่นข้างนอกกับเพื่อน ไม่มีเรื่องไหนเป็นเรื่องเล็กในยามที่เรารู้สึกว่านั่นคือปัญหา ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ล้วนเป็นเรื่องใหญ่ทั้งสิ้น แต่ปัญหาที่ต้องการพูดถึงในตอนนี้เชื่อว่าแทบทุกคนที่อยู่ในช่วงวัยทำงานเคยผ่านพบกันมาแล้วแทบทั้งสิ้น ปัญหาด้านการเรียนต่อในช่วงวัยมหาลัย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากเพราะเป็นช่วงเวลาที่เรานั้นเริ่มจะจริงจังกับชีวิตขึ้นมาอีกหนึ่งระดับแล้ว

เวลาผ่านไปเร็วเสมอ เราที่เคยเล่นสนุกในวันวานในวันนี้กลับไม่มีเวลาที่จะทำเช่นนั้นอีกแล้ว หลายคนมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วมุ่งหน้าไปยังเส้นทางที่ตัวเองใฝ่ฝัน และยังมีอีกหลายคนที่เส้นทางในวันนี้ยังมองเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ไม่ว่าทางที่เดินมุ่งไปจะยากหรือมีอุปสรรคมากแค่ไหนเชื่อว่าทุกคนจะสามารถทำเป้าหมายของตัวเองได้สำเร็จเหมือนกับ คุโด้ ซายากะ อย่างแน่นอน

แล้วคุโด้ ซายากะ คือใคร เธอเป็นเด็กสาววัยมัธยมปลายจากภาพยนต์ของประเทศญี่ปุ่นที่อ้างอิงมาจากเรื่องจริงอย่าง Biri Gal เด็กสาววัยมัธยมปลายผู้มีความรู้เทียบเท่าเด็กชั้นประถมศึกษา 4 ผู้ใช้ชีวิตสนุกไปวันๆ หลังจากปิดเทอมว่างๆคุณแม่ของเธอเลยแนะนำให้ลองไปเรียนที่สถาบันกวดวิชา จากที่จะลองไปเล่นๆแต่เธอกลับได้คว้าเป้าหมายชิ้นใหญ่กลับมา นั่นคือการเข้าศึกษาต่อมหาลัยชื่อดังที่ติดท็อปสามอันดับมหาลัยที่เข้ายากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เรียกว่าเป็นมหาลัยที่รวมเหล่าเด็กหัวกะทิเลยก็ว่าได้

เป้าหมายที่เธอตั้งไว้กลายเป็นเรื่องตลกขบขันชวนหัวเราะของใครหลายๆคน มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่เห็นความตั้งใจจริงของเธอ และหนึ่งในไม่กี่คนคนนั้นก็คือคุณแม่ของเธอเอง

ไม่ว่าจะเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากแค่ไหนในช่วงเวลานั้นเองเมื่อมองไป ต่อให้ที่ตรงนั้นที่ยืนอยู่ในความรู้สึกจะมืดมากแค่ไหน ก็ยังจะเห็นว่ายังมีคุณแม่คอยอยู่ข้างๆ คอยยิ้มแล้วบอกว่าไม่ต้องกังวลอะไร

คำพูดหนึ่งในหนังที่กลายเป็นคำคมให้เราได้ขบคิดตามเป็นประโยคที่ครูสึโบตะคุณครูสอนพิเศษบอกแก่ซายากะ ความหนักของเงินก้อนนั้น เธอรับรู้ได้ใช่มั้ยเพราะธนบัตรหนึ่งใบมีน้ำหนักที่เบามาก แต่เนื่องด้วยค่าใช้จ่ายในการเรียนพิเศษค่อนข้างสูงจำนวนธนบัตรที่คุณแม่จ่ายให้แก่คุณครูจึงเยอะมากจนกลายเป็นเงินก้อนที่สามารถถือแล้วรับรู้ได้ถึงน้ำหนัก

แต่หนักในที่นี้ไม่ได้หนักเพียงแค่จำนวนน้ำหนักของธนบัตรเท่านั้น แต่ยังเป็นความหนักของความรักและห่วงใยของคนเป็นแม่อีกด้วย เพราะเบื้องหลังของเงินก้อนนี้คือหยาดเหงื่อแรงกายที่คุณแม่ต้องหางานพิเศษทำเพิ่มในตอนกลางคืน คุณแม่ยอมสละเวลาพักผ่อนเพื่อที่จะได้สนับสนุนลูกได้อย่างเต็มที่ ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยให้ซายากะฟังเลยสักครั้ง

คุณแม่ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าสุดท้ายแล้วเงินที่จ่ายไป จะสามารถทำให้ซายากะสอบติดไหม คุณแม่รู้แค่ว่าตั้งแต่ซายากะได้เรียนที่โรงเรียนสอนพิเศษแห่งนี้ ซายากะได้ยิ้มมากกว่าที่เคยยิ้มมา ขอแค่แม่ได้เห็นว่าซายากะมีความสุข คุณแม่ก็พร้อมจะสนับสนุนทุกเรื่อง

แน่นอนว่าในตอนจบของเรื่องเธอสามารถทำความฝันของเธอให้เป็นจริงได้ เหมือนที่เราเชื่อว่าทุกคนจะเป็นแบบเธอได้ เพราะพวกเราทุกคนต่างก็เหมือนคุโด้ ซายากะ เราไม่ได้ต่อสู้อยู่เพียงลำพัง บนหนทางเดินที่ยากลำบากนี้เราทุกคนล้วนมีคนที่จับมือเดินอยู่ข้างๆ

ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะยากลำบากแค่ไหน ก็จะมีคนที่คอยผลักเราให้เดินไปข้างหน้าด้วยความกล้าหาญ คนที่ถึงแม้ว่าระหว่างทางเราจะล้มก็จะคอยดึงมือเราขึ้น หรือในยามที่เราท้อจนรู้สึกว่าทุกอย่างมันแย่ไปหมดตัวเราเองทำอะไรไม่ได้เลยทำได้เพียงนั่งร้องไห้ คนๆนั้นก็จะเป็นคนที่คอยกอดปลอบโยนเราแล้วบอกว่าไม่เป็นไร คอยบอกเราเสมอว่าเราเก่งมากแล้ว

เชื่อว่าในวันที่เราประสบความสำเร็จพอลองมองย้อนกลับไปเราจะรู้สึกขอบคุณปัญหาที่เราพบเจอ เราจะพบว่าปัญหาในวันนั้นต่อให้มันเป็นเรื่องที่ยากมากแค่ไหน แต่ถ้าเราสามารถก้าวผ่านมันมาได้แล้วประสบความสำเร็จก็ต้องขอบคุณที่ปัญหาเหล่านั้นทำให้เราในวันก่อนเติบโตเป็นเราที่ดีกว่าเดิมในวันนี้

และก็อย่าลืมว่าเพราะไม่มีใครสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว ถ้าเปรียบเป็นหนังฮีโร่ที่ทุกคนแสดงเป็นตัวเอก ฮีโร่ทุกคนต่างมีผู้ช่วยคนสำคัญอยู่ข้างๆเสมอ หรือเป็นหนังสืบสวนสอบสวนถ้าทุกคนเป็นเชอร์ล็อกโฮมส์ เราต่างล้วนมีคุณหมอวัตสันเคียงข้างกาย ไม่ว่าคนๆนั้นของเราจะมาอยู่ในรูปแบบไหนจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อนครูบาอาจารย์ คนสนิทที่รู้ใจ ต่างล้วนเป็นคนสำคัญที่เราพึงต้องระลึกขอบคุณอยู่เสมอเช่นเดียวกัน