“จงใช้ชีวิต เหมือนวันนั้นเป็นวันสุดท้ายของชีวิตคุณ”
– สตีฟ จอบส์ (นวัตกรผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ล)
สำหรับคำคมนี้ เป็นความจริงที่สุด ในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ทุกคน เป็นการดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นด้าย ที่ไม่รู้ว่าจะตายวันไหน เราทุกคนควรจะใช้ชีวิตที่มีลมหายใจ สร้างสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับโลกจะดีกว่า ตลอดชีวิตการทำงานของสตีฟ จอบส์ ผู้ที่ถูกยกย่องมาโดยตลอดว่าเป็น CEO ที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ถ้าไม่มีบุคคลอย่างสตีฟ จอบส์ โลกใบนี้คงไม่ได้เห็นโฉมหน้าสมาร์ทโฟน ที่เปลี่ยนแปลงโลก และนี่คือการทำงานหนัก การทุ่มเทของชายคนนี้ ที่อยากจะมอบสิ่งดี ๆ ให้กับโลกใบนี้ ก่อนที่ตัวเอง จะหมดลมหายใจ ตลอดชีวิตการทำงาน เราจะไม่เห็นสตีฟ จอบส์มานั่งจีบเบียร์ในคลับในบาร์ ภาพที่เราจะเห็นส่วนใหญ่ คือเขาจะทำงานอยู่ในบริษัทอยู่ตลอด และต้องขอบอกว่าเงินทองที่มากมาย ไม่ได้สำคัญสำหรับชายคนนี้เลย นวัตกรรมต่างหากที่สำคัญ
คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนในโลกใบนี้ สิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาคือการมอบลมหายใจ ให้กับการสร้างสรรค์สิ่งที่มีประโยชน์ ใบกับโลกใบนี้ ถ้าอยากเป็นหนึ่งในบุคคลที่ประสบความสำเร็จ อับดับแรกที่จะต้องทำ คือการมอบตัวเองให้กับป้าหมายที่ตัวเองต้องการ สตีฟ จอบส์ถึงจะเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความมุ่งมานะและพยายามที่อยากจะเปลี่ยนแปลงโลก ทำให้เขาไม่อดตาย แถมโลกยังจารึกชื่อของเขาไว้ด้วย
” วันนี้คุณเกิดมาจนไม่ใช่ความผิดของคุณ
แต่ถ้าคุณตายแล้วยังจนอยู่อีก นั้นแหละความผิดของคุณ ”” ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน ความจนไม่ใช่กรรมพันธุ ”
– บิล เกตส์ (ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์)
บางคนมีความท้อแท้ในชีวิตว่าทำไม ฉันถึงจนขนาดไหน ทำไมพ่อแม่ของฉันถึงแสนจน และนี้ก็คือข้ออ้างที่จะนำพาให้ตัวเองจมลงมากขึ้นกว่าเดิม เราทุกคนบนโลกใบนี้แน่นอนว่าอยากเกิดมาในที่สบาย บนกองเงิน กองทอง คงไม่มีใครที่อยากเกิดมาในตระกูลคนจน ๆ เกิดมาเป็นลูกขอทานคงไม่มีใครต้องการ แต่ถ้าในตอนนี้เราเกิดมามีพ่อแม่จน ๆ อย่าไปโทษพวกท่าน เรามีสองแขน สองแขน หนึ่งสมองและหนึ่งหัวใจในการเป็นนักสู้ เราต้องยอมรับความจนและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงให้เป็นความร่ำรวย
- เราเกิดมาจนไม่ผิด ไม่ผิดอยู่แล้วเพราะเราเลือกเกิดไม่ได้ เกิดมาจนหรือรวยก็แล้วแต่กรรมที่กระทำเอาไว้ ตามหลักคำสอนพุทธศาสนา ทำบุญเยอะก็ได้เยอะ ทำบุญน้อยก็ได้น้อย แต่อดีตชาติไม่สำคัญเท่าปัจจุบัน ปัจจุบันสำคัญที่สุดเราต้องทำปัจจุบันให้ดีที่สุด แล้วอนาคตจะดีเอง
- ตายแล้วจน นั่นคือความผิดของเรา ถ้าสมมุติอายุของท่านยืนยาวถึง100 ปี แต่ในร้อยปีนั้นไม่ได้ทำคุณประโยชน์ให้กับโลกเลย ขอแนะนำให้ตายให้เร็วที่สุดจะดีกว่า คนที่เกิดมาทำความดีมีมากมาย
- ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน บิลเกตส์ถือแม้จะถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะด้านไอที แต่กว่าจะประสบความสำเร็จสิ่งที่มากกว่าอัจฉริยะคือความมานะ จนทำให้บิลเกตส์ร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งของโลกถึง 7 สมัยซ้อน
- ความจนไม่ใช่กรรมพันธุ์ ถึงแม้กรรมพันธุ์จากพ่อแม่ที่ถ่ายทอดสู่ลูกจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ความจนสามารถเปลี่ยนแปลงได้แน่นอน พ่อแม่จนก็ใช่ว่าเราจะจนตามพ่อแม่เสมอไป เราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงต้นทุนชีวิต ได้เสมอถ้าคิดอยากจะทำ
อีก 5 ปีข้างหน้าชีวิตเราจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับ
เพื่อนที่เราพบ กับหนังสือที่เราอ่าน ”
– มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (ผู้ก่อตั้ง Facebook)
ชีวิตจะดำเนินตามสิ่งที่เราพบเจอเสมอ คำคมนี้เป็นคำคมที่ควรใส่ใจที่สุด สำหรับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จ เพราะสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ คือเพื่อนและความรู้ ความสำเร็จถ้าปราศจากสองสิ่งนี้ คงสำเร็จยากมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือว่าหนังสือ จะยกตัวท่านให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น และเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
- เพื่อนในโลกใบนี้ มีอยู่สองประเภทด้วยกัน คือเพื่อนดีและเพื่อนเลว ถ้าอยากประสบความสำเร็จในชีวิตขอแนะนำให้คบเพื่อนดี เพื่อนที่มีความจริงใจต่อเรา จะต่อหน้าหรือลับหลัง เพื่อนดีจะส่งเริ่มให้ท่านประสบความสำเร็จได้ง่าย เพื่อนเลวจะส่งเริมให้ท่านต่ำลง พระพุทธเจ้าเองก็ทรงตรัสสอนเช่นเดียวกันว่า คบคนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตจะพาไปหาผลดี ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงเพื่อนที่ชักชวนทำในสิ่งที่ไม่ดี ผิดต่อความมนุษย์เสีย
- หนังสือ เราถามตัวเองหรือยังว่า ตอนนี้เรากำลังเสพข้อมูลอะไรอยู่ เสพข้อมูลที่มีประโยชน์หรือข้อมูลขยะ หนังสือถือเป็นหนึ่งแนวทางที่จะนำพาชีวิตท่านไปพบกับสิ่งที่ท่านต้องการ ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ขอแนะนำให้อ่านหนังสือ พัฒนาตัวเอง ถ้าอยากเป็นกวีของแนะนำให้อ่านหนังสือกลอน ถ้าอยากสร้างธุรกิจ ขอแนะนำให้อ่านหนังสือ แนวธุรกิจ อย่าลืมว่าสิ่งที่เราเสพคือสิ่งที่จะแสดงผลตามมาเสมอ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กที่ได้เป็นมาหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุด ย่อมมีทีมงานที่มีคุณภาพและหนังสือที่ดีเสมอ