อดีตภรรยาศาสตราจารย์ UC Berkeley สั่งให้คนรักฆ่าสามีเก่า คนรักสารภาพแล้ว

Exclusive เรื่องที่น่าสนใจล่าสุด

คดีฆาตกรรมที่สั่นสะเทือนวงการศึกษาระหว่างประเทศเกิดขึ้นในกรีซเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อ เปเชมิสลาฟ เจซิออร์สกี (Przemyslaw Jeziorski) อายุ 43 ปี ศาสตราจารย์ด้านธุรกิจและการตลาดของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ถูกลอบสังหารในเขตอาเกีย ปารัสเกวี ย่านชานเมืองของกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางแสงแดดกลางวัน ซึ่งสร้างความตกใจและสะเทือนขวัญให้กับทั้งชุมชนวิชาการและสาธารณชนทั่วไป ศาสตราจารย์เจซิออร์สกี เดินทางมาที่กรีซเพื่อเข้าร่วมการพิจารณาคดีเรื่องสิทธิการดูแลบุตร และเพื่อเยี่ยมลูกๆ ที่อยู่ในความดูแลของอดีตภรรยาในขณะนั้น

การจับกุมผู้ต้องสงสัย 5 คน

หลังจากเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมไม่กี่วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกรีซได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องสงสัย 5 คน ประกอบด้วย อดีตภรรยาของเหยื่อ คนรักของเธอ และผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 3 คน ซึ่งรวมถึงผู้เยาว์ 1 คนด้วย ตามข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นกรีซ โต วิมา (To Vima) และ อีอาร์ที (ERT)

ตามกฎหมายและข้อบังคับของกรีซ ทางการไม่ได้เปิดเผยชื่อของผู้ต้องหาต่อสาธารณชน แต่รายละเอียดของคดีที่เปิดเผยออกมาได้สร้างความตะลึงให้กับผู้ติดตาม

คำสารภาพที่น่าสะพรึงกลัว

สิ่งที่น่าตกใจที่สุดในคดีนี้คือ คำสารภาพของคนรักของอดีตภรรยา ซึ่งได้ยอมรับต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกรีซว่า เขาได้ลงมือฆ่าศาสตราจารย์เจซิออร์สกี ตามคำสั่งของแฟนสาว ตามรายงานของ CNN, ดีโมกราเทีย และ ERT

ชายคนนี้กล่าวในคำสารภาพว่า เขาตัดสินใจลงมือเพราะกลัวว่าศาสตราจารย์เจซิออร์สกี จะพาลูกๆ ไปจากแม่ของพวกเขา “ผมตัดสินใจที่จะยุติความทรมานที่เราประสบอยู่ให้จบลงอย่างถาวร” เขากล่าวในคำสารภาพ

รายละเอียดของการวางแผนฆาตกรรมที่เปิดเผยออกมาแสดงให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมและการวางแผนล่วงหน้า ในวันเกิดเหตุ ผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 3 คนได้ขับรถพาเขาไปยังจุดที่เตรียมไว้ เพื่อรอซุ่มยิงศาสตราจารย์เจซิออร์สกี

“ผมเข้าไปหาเขาและยิงเขาหลายนัด แต่ผมจำไม่ได้ว่ายิงกี่นัดกันแน่” ชายคนนี้กล่าวในคำสารภาพ แสดงให้เห็นถึงความเย็นชาและความโหดร้ายของการกระทำ

ความขัดแย้งในครอบครัวที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม

ก่อนเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมหลายเดือน ศาสตราจารย์เจซิออร์สกี ได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองจากศาลต่ออดีตภรรยาของเขา ตามเอกสารศาลที่สื่อ ซาน ฟรานซิสโก โครนิเคิล, ABC News และ SF Gate ได้รับมา

ในเอกสารคำร้อง ศาสตราจารย์เจซิออร์สกี ได้กล่าวหาว่า คนรักของอดีตภรรยาได้ทำร้ายร่างกายเขาถึง 2 ครั้ง ในขณะที่เขาไปส่งหรือรับลูกๆ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าความตึงเครียดและความรุนแรงได้เริ่มขึ้นมานานก่อนที่จะนำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งนี้

ศาสตราจารย์เจซิออร์สกี ยังได้กล่าวหาในเอกสารว่า อดีตภรรยาของเขาได้จงใจให้คนรักของเธอเป็นคนมารับหรือส่งลูกๆ หลังจากการเยี่ยมลูกของเขา เพื่อเป็นการข่มขู่และสร้างความกดดันให้กับเขา ตามรายงานของ Chronicle

ภูมิหลังและแรงจูงใจของคดี

คดีนี้เป็นผลมาจากข้อพิพาทเรื่องสิทธิการดูแลบุตรที่ยืดเยื้อและซับซ้อน ศาสตราจารย์เจซิออร์สกี ซึ่งเป็นชาวโปแลนด์ที่ย้ายมาทำงานในสหรัฐอมริกา มีลูก 2 คนกับอดีตภรรยาที่เป็นนักเศรษฐศาสตร์ หลังจากการหย่าร้าง ความขัดแย้งเรื่องสิทธิการดูแลลูกได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่นำไปสู่ความรุนแรงในท้ายที่สุด

การที่อดีตภรรยาและลูกๆ อาศัยอยู่ในกรีซ ในขณะที่ศาสตราจารย์เจซิออร์สกี ทำงานในสหรัฐอมริกา ทำให้เรื่องการดูแลลูกซับซ้อนยิ่งขึ้น เขาต้องเดินทางข้ามทวีปเพื่อมาเยี่ยมลูกและเข้าร่วมการพิจารณาคดีในศาล

การสารภาพและการปฏิเสธความผิด

สิ่งที่น่าสนใจในคดีนี้คือ ผู้ต้องหา 4 คนจาก 5 คน รวมถึงผู้ลงมือฆ่าได้สารภาพความผิดและเชื่อมโยงของตนกับอาชญากรรมนี้ มีเพียงอดีตภรรยาของศาสตราจารย์เจซิออร์สกี เท่านั้นที่ยืนยันความบริสุทธิ์ของตน ตามรายงานของ CNN

การที่ผู้ต้องหาส่วนใหญ่สารภาพความผิด แต่ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สั่งการกลับปฏิเสธ สร้างความซับซ้อนให้กับคดีนี้ และจะเป็นประเด็นสำคัญในการพิจารณาคดีต่อไป

ผลกระทบต่อวงการศึกษาและชุมชน

การจากไปของศาสตราจารย์เจซิออร์สกี สร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงให้กับวงการศึกษา เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักวิชาการที่มีความสามารถและเป็นที่เคารพนับถือ รวมทั้งเป็นพ่อที่รักลูกและทุ่มเทให้กับครอบครัว

ซอลท์ คาโทนา (Zsolt Katona) ศาสตราจารย์เพื่อนร่วมงานที่ UC Berkeley ได้ให้ความเห็นต่อสื่อ PEOPLE หลังจากเกิดเหตุฆาตกรรมว่า “หากจะมีสิ่งใดที่ปลอบใจในช่วงเวลานี้ได้ นั่นคือการรู้ถึงผลกระทบที่ยาวนานที่เขาได้ทิ้งไว้ในชีวิตของผู้คนมากมาย”

ความทรงจำและมรดกที่เหลือไว้

ศาสตราจารย์เจซิออร์สกี ได้รับการจดจำจากคนรักทั้งในสหรัฐอมริกาและโปแลนด์ บ้านเกิดของเขา สำหรับความทุ่มเทต่องานและลูกๆ เขาเป็นนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจและการตลาด และเป็นครูที่ได้รับความรักจากนักศึกษา

ครอบครัวของเขาได้จัดตั้งกองทุนออนไลน์เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการขนส่งศพกลับไปยังโปแลนด์ เพื่อให้เขาได้รับการฝังศพอย่างเหมาะสมในบ้านเกิด การระดมทุนนี้แสดงให้เห็นถึงความรักและความเคารพที่ผู้คนมีต่อเขา

ผลกระทบต่อลูกๆ และอนาคต

โศกนาฏกรรมนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อวงการศึกษาเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อลูกๆ ของศาสตราจารย์เจซิออร์สกี ที่ต้องสูญเสียพ่อไปในวัยที่ยังเด็ก และต้องเผชิญกับความจริงที่โหดร้ายว่าแม่ของพวกเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมพ่อ

การดำเนินคดีในอนาคตจะต้องคำนึงถึงสวัสดิภาพของเด็กๆ เป็นสำคัญ และการตัดสินใจเรื่องสิทธิการดูแลบุตรจะกลายเป็นประเด็นที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

บทเรียนจากโศกนาฏกรรม

คดีนี้เป็นตัวอย่างที่เจ็บปวดของผลกระทบที่ความขัดแย้งในครอบครัวสามารถนำไปสู่ความรุนแรงได้ การที่ข้อพิพาทเรื่องสิทธิการดูแลบุตรพัฒนาไปสู่การคุกคามและในที่สุดกลายเป็นการฆาตกรรม แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยวิธีที่สันติและการมีระบบป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

การดำเนินคดีและความยุติธรรม

ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการของระบบยุติธรรมกรีซ การที่ผู้ต้องหาส่วนใหญ่สารภาพความผิดจะช่วยให้การพิจารณาคดีดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว แต่การที่อดีตภรรยาซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สั่งการปฏิเสธความผิด อาจทำให้คดีนี้ยืดเยื้อและซับซ้อนขึ้น

ชุมชนระหว่างประเทศรอคอยให้เกิดความยุติธรรมในคดีนี้ และหวังว่าการพิจารณาคดีจะดำเนินไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อให้ศาสตราจารย์เจซิออร์สกี ได้รับความยุติธรรมที่สมควร และเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

โศกนาฏกรรมนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญที่เตือนใจเราถึงความสำคัญของการแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยสันติวิธี และความจำเป็นในการมีระบบคุ้มครองที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อความรุนแรงในครอบครัว